วันอาทิตย์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ทริปวันที่ 1 24/07/2010

เป็นวันแรกที่ออกทริป  รถออก 8 โมงเช้า แต่กว่าจะออกก็เกือบ 9 โมง

ระหว่างการเดินทางไปถึงที่พักนั้น ได้แวะไปที่จังหวัดอุทัยธานี
ซึ่งเป็นเมืองเล็ก ๆ แต่ดูเก่าแก่ ผังของเมืองดูเป็นไปอย่างไม่มีระเบียบ ซึ่งในความไม่มีระเบียบนั้้นเองก็ก่อให้เกิดเสน่ห์อย่างหนึ่ง ในเรื่องของมุมมองของเมือง ทำให้สามารถคาดการของการขยายตัวของเมืองได้อย่างไม่ยาก
เมืองอุทัยธานี
หลังจากที่ได้รับประทานอาหารกลางวันกันเสร็จแล้ว ก็ได้ออกเดินทางต่อไป จนได้ไปถึงสถานที่ที่เราจะไปเรียนรู้กันที่แรก ก็คือ เรือนแพอุทัยธานี  โดยพวกเรานั้นได้ลงไปศึกษาความเป็นอยู่ของผู้คนที่ได้อาศัยอยู่ในเรือนแพ

เรือนแพเป็นโครงสร้างลอยน้ำขนาดเล็ก โดยสมัยก่อนนั้นใช้ไม้ไผ่ซึ่งมีอยู่มากในท้องถิ่นนำมามัด เป็นเรือนเครื่องผูก ภายในใช้สำหรับอยู่อาศัยได้ไม่กี่คน นอกจากนั้นแล้ว การเปิดช่องเปิดและประตูนั้นจะมีสเกลที่เล็กกว่าปกติ การเดินเชื่อมต่อของเรือนหนึ่งไปอีกเรือนหนึ่งนั้นใช้ไม้พาดกันไปมา การที่จะให้เรือนแพนั้นอยู่กับที่ก็ต้องผูกกับเสากระโดง มีการเลี้ยงปลา หรือปลูกไม้น้ำไว้บริเวณหน้าบ้าน  เพื่อป้องกันคลื่นจากเรือที่เดินทางผ่าน
เป็นการลดการโคลงของแพนั่นเอง  ในปัจจุบันนั้นเรือนแพนั้นหาได้ยาก (เฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่จริงๆ ) เนื่องจากการเดินทางสมัยนี้ใช้ทางถนนเป็นหลัก 

ในตอนที่เราได้ไปนั้นก็ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงความเป็นอยู่ของผู้คน มีการจัดการสร้างห้องน้ำลอยน้ำไว้เป็นสัดส่วนเพื่อลดปัญหามลพิษทางน้ำ (แต่ไม่แน่ใจว่ามันจะใช้ได้จริงหรือเปล่า)

เรือนแพอุทัยธานี
ทางเดินจากบนบกไปสู่เรือนแพ
ห้องน้ำ
จากวันนี้ก็ได้เห็นว่าสภาพความเป็นอยู่ของคนสมัยก่อนนั้นมักจะอาศัยอยู่ริมน้ำ แม่น้ำคือหัวใจหลักของชุมชนสมัยก่อน เป็นทั้งหัวใจหลักในการคมนาคม เป็นอู่ข้าวอู่น้ำ เป็นที่อยู่อาศัย  เรือนแพอุทัยธานีทำให้เราได้ย้อนกลับไปถึงบรรยากาศของสมัยก่อนได้อย่างดีทีเดียว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น